วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ผู้จัดทำ


ผู้จัดทำ

1.นายพงษ์ศักดิ์ พฤกษาพันธุ์รัตน์ (ดิว)

2.นายศุภากร ศรีเที่ยงตรง (อั้น)

3.นายวิษณุ เนียมปาน (นุ)

4.นายวิจันทร เถื่อนกี๋ (มาร์ค)

5.นายรัฐฐพงษ์ ห่วงประโคน (โอ็ต)



บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา


บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา

การศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้และเพื่อเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดทีทำมาจากเปลือกผลไม้สามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้

   สรุปผลการศึกษา                                                                                                                  
        ผลปรากฏว่าการใช้เปลือกผลไม้ในการคัดลองเทานั้นเกิดความมันวาวได้จริงเมื่อทดลองแล้วผลก็ออกมาว่าการใช้เปลือกมังคุดกับเปลือกส้มนั้นในการคัดลองเท้าแล้วการใช้เปลือกมังคุดคัดลองเท้าจะเกิดความมันวาวได้ดีกว่าการใช้เปลือกส้มในการคัดลองเท้า

บทที่ 4 ผลการศึกษา


บทที่ 4  ผลการศึกษา

การศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้และเพื่อเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้มีผลการศึกษาดังนี้
1.ผลการศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้  ปรากฏผลดังนี้
                                                                                    
1. เปลือกผลไม้ที่จะนำมาอบ

2.นำเปลือกผลไม้ไปอบในเตาอบ

3.เปลือกมังคุดที่ได้ขากการอบ

4.เปลือกส้มที่ได้จากการอบ


5.นำเปลือกผลไม้ที่แห้งแล้วไปตำให้เป็นผง

6.ผงที่ได้จากเปลือกมังคุด

7.ผงที่ได้จากเปลือกส้ม

8.วัดปริมาณการใช้สาร


9.ตั้งไฟให้พอประมาณแล้วนำขี้ผึ้งกับวาสลีนใส่ลงไป


10.เมื่อขี้ผึ้งกับวาสลีนเป็นของเหลวแล้วนำผงที่ได้จากผงส้มกับมังคุดใส่ลงไป

11.ทำการเคี่ยวให้เป็นเนื้อเดียวกัน

12.เมื่อเป็นเนื้อเดียวกันให้นำใส่ภาชนะ

13.ตั้งทิ้งไว้ให้แห้ง

14.ครีมขัดรองเท้าจากเปลือกส้มและมังคุด

15.ขัดรองเท้าด้วยครีมขัดรองเท้าที่ทำจากเปลือกส้มและมังคุด

16.วัดค่าความเงาของรองเท้าของส้ม

17.วัดค่าความเงาของรองเท้าของมังคุด






2.ผลการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้ ปรากฎผลดังตารางที่ 1
        1.สูตรครีมขัดรองเท้าจากเปลือกส้มและเปลือกมังคุด
  1.เปลือกส้ม                 5 กรัม                     1.เปลือกมังคุด            5 กรัม
  2.ขี้ผึ้ง                         10 กรัม                       2.ขี้ผึ้ง                        10 กรัม               
  3.วาสลีน                  10 กรัม                         3.วาสลีน                     10 กรัม

        2.ตารางที่ 1 แสดงค่าความมันวาวของรองเท้าจากเปลือกส้มและเปลือกมังคุด
ตารางแสดงค่าความมันวาวของรองเท้า
ครีมขัดรองเท้า
ค่าความมันวาว
ขัดจากครีมขัดรองเท้าที่ทำจากเปลือกส้ม
0.33 Lux
ขัดจากครีมขัดรองเท้าที่ทำจากเปลือกมังคุด
0.37 Lux
จากตารางที่ 1 พบว่าครีมขัดรองเท้าที่ทำจากเปลือกมังคุดมีค่าความเงา 0.37 Luxส่วนครีมขัดรองเท้าที่ทำจากเปลือกส้มมีค่าความเงา0.33Lux
หมายเหตุ:Lux คือ หน่วยความสะท้อนแสง

บทที่ 3 วิธีการศึกษา


บทที่ 3 วิธีการศึกษา


                การศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้และเพื่อเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้คณะผู้รายงานกำหนดขั้นตอน/วิธีการศึกษาไว้ ดังนี้
วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้
      1.เปลือกส้ม
      2.เปลือกมังคุด
      3.ขี้ผึ้ง
      4.หม้อ
     5.เตาแก็ส
     6.วาสลีน
     7.ครก
     8.สาก
     9.ของบรรจุภัณฑ์
วิธีและเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูล
   1.ขัดรองเท้าด้วยครีมขัดรองเท้าที่ทำจากเปลือกส้มและมังคุด
   2.วัดค่าความมันวาวของรองเท้าหลังจากการขัดด้วยครีมขัดรองเท้าด้วย        เครื่องมือวัดความเงา
   3.บันทึกผลออกมาเป็นตัวเลขที่มีค่ามากจะมีความเงามากกว่าเลขที่มีค่าน้อย
วิธีการ/ขั้นตอนการศึกษา
ขั้นตอนการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกส้มและมังคุด
   1.หาเรื่องที่เราสนใจจะทำ
   2.ค้นหาข้อมูลที่จะทำ
   3.ออกแบบร่างงานที่จะทำ
   4.เตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดที่จะทำ
   5.นำเปลือกผลไม้มาตากแห้ง
   6.นำเปลือกผลไม้ที่ตากแห้งมาบดหรือตำให้เป็นผง
   7.ตั้งเตาแก๊สไฟพอดีๆและนำหม้อขึ้นไปตั้ง
   8.นำวาสลีนลงไปและพาราฟีนหรือขี้ผึ้งลงไปทำให้เป็นของเหลว
   9.นำเปลือกผลไม้ที่เป็นผงใส่ลงไปผสมกับของเหลวที่ได้
   10.ทำการเคี้ยวให้เป็นเนื้อเดียวกัน
   11.นำมาใส่ภาชนะ
   12.ตั้งทิ้งไว้รอให้แห้ง
   13.แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
   14.สรุปผลการทดลอง

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง


บทที่ 2  เอกสารที่เกี่ยวข้อง
       การศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้และเพื่อเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้ผู้ศึกษาได้ทำการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ดังมีหัวข้อต่อไปนี้
1.ลักษณะของเปลือกผลไม้
2.ความสำคัญของเปลือกผลไม้
3.วิธีการเตรียมผงเปลือกส้มและมังคุด
1.   ลักษณะของเปลือกผลไม้ 
          มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 6-11 ซม. ยาว 15-25 ซม. เนื้อใบหนาและค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศหรือแยกเพศ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลืองติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง แก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจำนวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร[2]เมล็ดไม่สามารถใช้รับประทานได้มังคุดเป็นผลไม้จากเอเชียที่ได้รับความนิยมมาก มังคุดได้รับขนานนามว่าเป็น "ราชินีของผลไม้" อาจเป็นเพราะด้วยลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบเลี้ยงติด อยู่ที่หัวขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินีส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้ มีการนำมังคุดมาประกอบอาหารบ้างทั้งอาหารคาว เช่น แกง ยำ และอาหารหวาน เช่น มังคุดลอยแก้ว แยมมังคุด มังคุดกวน มังคุดแช่อิ่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการทำมังคุดคัด ด้วยการแกะเนื้อมังคุดห่ามออกมาเสียบไม้รับประทานในขณะที่ส่วนใหญ่จะนิยมรับประทางมุงคุดสุกเป็นผลไม้เปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) แทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว แมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ ฝนกับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้รักษาอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย เปลือกมังคุด มีสารป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การหมักปุ๋ย

ส้ม (Citrus) อยู่ในวงศ์ Rutaceae มีต้นกำเนิดในเขตร้อนและเขตร้อนชื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 5-15 เมตร มีหนามที่ต้น มีใบแบบสลับและเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อดอกขนาดเล็ก แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 ซม. มีกลีบดอกสีขาว 5 กลีบ (น้อยชนิดมี 4 กลีบ) และมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ปกติดอกมีกลิ่นหอม ผลกลมจนถึงยาว ขนาดยาว 430 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 420 ซม. พืชสกุลนี้มีความสำคัญทางการค้า โดยหลายชนิดมีการปลูกเพื่อนำผลไปกินสดๆหรือคั้นเป็น น้ำผลไม้ผลมีกลิ่นหอม เนื่องจากมีสาร ฟลาโวนอยด์ และ ลิโมนอยด์ (ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสาร เทอร์พีน) ในเปลือกและในน้ำ นอกจากนี้น้ำมี กรดซิตริกจำนวนมากจึงทำให้มีรถเปรี้ยว และเป็นแหล่ง ไวตามินซี และ ฟลาโวนอยด์
(ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94)
มังคุดเป็นพืชในสกุลเดียวกับมะดัน และส้มแขก มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของไทยต่อกับประเทศมาเลเซีย ในอดีตมีการปลูกเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ปัจจุบันได้มีผู้นำไปปลูกในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น ศรีลังกา อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย แต่ประเทศผู้ส่งออกสำคัญยังเป็นประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นอกจากกินเป็นผลไม้สดแล้ว ยังมีการทำเนื้อมังคุดแช่แข็งเพื่อส่งออก เมื่อถึงผู้บริโภคปลายทางก็นำมาละลายน้ำแข็งกินได้เช่นกัน เปลือกมังคุดให้สีม่วง ใช้ทำน้ำยาขัดรองเท้า ใช้ย้อมสีหนัง ใช้เป็นยาฝาดสมาน และผสมในเครื่องสำอาง
(ที่มา: http://saengdaw006.blogspot.com/)
2.ความสำคัญของเปลือกผลไม้
มังคุดเป็นพืชในสกุลเดียวกับมะดันและส้มแขกมีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของไทยต่อกับประเทศมาเลเซีย ในอดีตมีการปลูกเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ปัจจุบันได้มีผู้นำไปปลูกในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น ศรีลังกา อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย แต่ประเทศผู้ส่งออกสำคัญยังเป็นประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์นอกจากกินเป็นผลไม้สดแล้ว ยังมีการทำเนื้อมังคุดแช่แข็งเพื่อส่งออก เมื่อถึงผู้บริโภคปลายทางก็นำมาละลายน้ำแข็งกินได้เช่นกัน เปลือกมังคุดให้สีม่วง ใช้ทำน้ำยาขัดรองเท้า ใช้ย้อมสีหนัง ใช้เป็นยาฝาดสมาน และผสมในเครื่องสำอางส่วนของเปลือกผลแห้งของส้มจะมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย ซิตรัล ( CITRAL ) เจอรานิออล( GERANIOL ) และ ไลนาโลออล ( LINALOOL ) น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จะสามารถสกัดออกมาเพื่อใช้แต่งกลิ่นยาและมีฤทธิ์ขับลม ส่วนเปลือก ผลที่แห้งเมื่อนำมาจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและสามารถไล่ยุงได้ดีส้ม .... ทุกคนอาจจะรู้จักผลไม้ชนิดนี้กันดีอยู่แล้ว  เพราะ ส้มเป็นผลไม้ที่หาซื้อรับประทานได้ง่ายและมีให้รับประทานตลอดทั้งปี ปกติแล้วเรารับประทานแค่เพียงเนื้อส้มข้างในแล้วก็ทิ้งเปลือกส้ม แต่ ! หารู้ไม่ว่าเปลือกส้มที่เราทิ้งกันมีประโยชน์นานับประการ  ถ้าการทำงานในทุกๆ วันทำให้กำลังรู้สึกเครียดหรือเมื่อยล้าและอยากหาสิ่งที่ช่วยผ่อนคลาย  เปลือกส้มช่วยท่านได้..โดยการนำเปลือกส้มมาคั้นหรือบีบเอาน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในเปลือกส้ม นำมาดมกลิ่น หรือใช้นวดตามร่างกาย ซึ่งน้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ ประโยชน์ของเปลือกส้มยังไม่หมดเพียงเท่านี้!!! ...เพราะเปลือกส้มยังมีคุณสมบัติช่วยทำให้สิวที่รังควานใบหน้าของสาว ๆ ยุบสลายได้อย่างดีทีเดียวเพียงแค่นำเปลือกส้มที่ไม่ใช้ไปล้างน้ำสะอาด บดให้ละเอียดๆ แล้วผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อยนำไปแต้มสิว ทิ้งไว้สัก 20 -30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพียงเท่านี้สิวที่ผุดอยู่บนใบหน้าก็จะค่อย ๆ ยุบหายไป ใบหน้าของคุณก็จะกลับมาใสปิ๊งเหมือนเดิมค่ะหน้าหนาวนี้สำหรับสาวๆหรือชายหนุ่มที่มีลักษณะผิวดังต่อไปนี้ตั้งใจฟังให้ดีๆ เพราะจะมีเคล็ดที่ไม่ลับมากฝากกัน!! เริ่มต้นกันด้วยใครที่มีผิวที่แห้ง แตก หรือลอกเป็นขุย ไม่ต้องเสียเวลา  เสียเงินไปซื้อครีมทาผิว แพงๆกันอันต่อไปแล้วค่ะ เพียงแค่นำเปลือกส้มมาบดให้ละเอียดจึงนำไปใช้แทนสบู่แล้วตามด้วยการอาบน้ำสะอาดเป็นเสร็จพิธี เพียงแค่นี้ก็สามารถดูแลผิวด้วยสูตรสำเร็จที่เราทำเองได้ที่บ้านโดยไม่ต้องเสียสตางค์แพงๆไปทำ สปาตามร้านให้ยุ่งยากอีกต่อไป
(ที่มา: http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/6681)  
3.วิธีการเตรียมผงเปลือกส้มและมังคุด
 1.นำเปลือกส้มและเปลือกมังคุดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2.นำเปลือกส้มที่หั่นแล้วไปอบในเตาจนเปลือกแห้ง และนำมาตำจนผงละเอียด
3.ทำตามขั้นที่2แต่เปลี่ยนจากเปลือกส้มเป็นเปลือกมังคุด

บทที่ 1 บทนำ


บทที่ 1 บทนำ

ที่มาและความสำคัญ
                ในปัจจุบันนี้มีปัญหาในกลุ่มของนักเรียนหญิงหรือบุคลากรที่ทำงานใช้รองเท้าหนังส่วนใหญ่นั้นจะใช้ครีมสำเร็จรูปในการขัดรองเท้าและในสารของครีมขัดรองเท้าที่จะนำมาใช้จะมีสารเคมีและจะมีราคาแพงทำให้กลุ่มนักเรียนหรือบุคลากรที่ใช้รองเท้าหนังไม่ใส่ใจในการขัดรองเท้า กลุ่มของกระผมจึงจัดทำโครงงานนี้ขึ้นเพื่อศึกษาวิธีการนำเปลือกผลไม้มาทำเป็นครีมขัดรองเท้าโดยทำการเปรียบเทียบว่าเปลือกผลไม้ชนิดใดจะมีคุณภาพในการสร้างความเงาให้กับรองเท้าดีกว่ากัน

      มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 6-11 ซม. ยาว 15-25 ซม. เนื้อใบหนาและค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศหรือแยกเพศ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลืองติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง แก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจำนวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร[2]เมล็ดไม่สามารถใช้รับประทานได้
(ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94)
สกุลส้ม (Citrus) อยู่ในวงศ์ Rutaceae มีต้นกำเนิดในเขตร้อนและเขตร้อนชื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 5-15 เมตร มีหนามที่ต้น มีใบแบบสลับและเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อดอกขนาดเล็ก แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 ซม. มีกลีบดอกสีขาว 5 กลีบ (น้อยชนิดมี 4 กลีบ) และมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ปกติดอกมีกลิ่นหอม ผลกลมจนถึงยาว ขนาดยาว 430 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 420 ซม. พืชสกุลนี้มีความสำคัญทางการค้า โดยหลายชนิดมีการปลูกเพื่อนำผลไปกินสดๆหรือคั้นเป็น น้ำผลไม้ผลมีกลิ่นหอม เนื่องจากมีสาร ฟลาโวนอยด์ และ ลิโมนอยด์ (ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสาร เทอร์พีน) ในเปลือกและในน้ำ นอกจากนี้น้ำมี กรดซิตริกจำนวนมากจึงทำให้มีรถเปรี้ยว และเป็นแหล่ง ไวตามินซี และ ฟลาโวนอยด์พืชในสกุลส้มเกิด พันธุ์ลูกผสม ได้ง่ายมาก (เช่น เมล็ดที่โตจาก มะนาวตาฮิติ สามารถให้ผลที่ใกล้เคียงส้มเกรฟฟรุตได้) พืชในสกุลส้มที่ปลูกเป็นการค้าทั้งหมดใช้กิ่งตอน ของ สายพันธุ์ที่ต้องการ มาปลูกบนต้นตอที่ต้านทานโรค และทนทานสีของผลไม้สกุลส้มจะมีสีสดเฉพาะในเขตภูมิอากาศที่หนาวเย็น ส่วนในเขตภูมิอากาศร้อน ผลของต้นไม้สกุลส้มจะยังมีสีเขียวอยู่แม้ว่าจะโตเต็มที่ จึงมักถูกเรียกว่า "ส้มสีเขียว" ต้นมะนาวเป็นตัวอย่างหนึ่งซึ่งมีไวต่อสภาพอากาศเย็นมากดังนั้นจึงไม่เคยถูกทิ้งในสภาพอากาศที่เย็นเหมาะสมพอจะสร้างสีสดได้ ถ้าผลมะนาวถูกทิ้งไว้ที่ต้นให้อยู่ข้ามฤดูหนาว ผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไม้ในสกุลส้มหลายชนิดจะถูกเก็บตั้งแต่ยังมีสีเขียวและไปสุกขณะที่ขนส่งไปยังร้านค้า
   


เปลือกผลไม้แห้ง
มังคุดเป็นพืชในสกุลเดียวกับมะดัน และส้มแขก มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของไทยต่อกับประเทศมาเลเซีย ในอดีตมีการปลูกเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ปัจจุบันได้มีผู้นำไปปลูกในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น ศรีลังกา อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย แต่ประเทศผู้ส่งออกสำคัญยังเป็นประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นอกจากกินเป็นผลไม้สดแล้ว ยังมีการทำเนื้อมังคุดแช่แข็งเพื่อส่งออก เมื่อถึงผู้บริโภคปลายทางก็นำมาละลายน้ำแข็งกินได้เช่นกัน เปลือกมังคุดให้สีม่วง ใช้ทำน้ำยาขัดรองเท้า ใช้ย้อมสีหนัง ใช้เป็นยาฝาดสมาน และผสมในเครื่องสำอาง
ส่วนของเปลือกผลแห้งของส้มจะมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย ซิตรัล ( CITRAL ) เจอรานิออล
( GERANIOL ) และ ไลนาโลออล ( LINALOOL ) น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จะสามารถสกัดออกมาเพื่อใช้แต่งกลิ่นยาและมีฤทธิ์ขับลม ส่วนเปลือก ผลที่แห้งเมื่อนำมาจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและสามารถไล่ยุงได้ดีอีกด้วย      (ที่มา: (http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/6681)  
   
 วัตถุประสงค์
         การศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้ครั้งนี้กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้
1.เพื่อศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้
2.เพื่อเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้


ด้านเนื้อหา
      ในการศึกษาทดลองโครงงานนี้มุ่งศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้ชนิดใดมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
       1.เพื่อจะได้รู้ว่าเปลือกผลไม้ชนิดใดมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน
       2.เพื่อจะได้รู้สูตรในการทดลองว่าสูตรใดเหมาะกับการทำครีมขัดรองเท้า