วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง


บทที่ 2  เอกสารที่เกี่ยวข้อง
       การศึกษาการเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้และเพื่อเปรียบเทียบความเงาของรองเท้าในการใช้ครีมขัดที่ทำมาจากเปลือกผลไม้ผู้ศึกษาได้ทำการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ดังมีหัวข้อต่อไปนี้
1.ลักษณะของเปลือกผลไม้
2.ความสำคัญของเปลือกผลไม้
3.วิธีการเตรียมผงเปลือกส้มและมังคุด
1.   ลักษณะของเปลือกผลไม้ 
          มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 6-11 ซม. ยาว 15-25 ซม. เนื้อใบหนาและค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ท้องใบสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง สมบูรณ์เพศหรือแยกเพศ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลืองติดอยู่จนเป็นผล กลีบดอกสีแดง ฉ่ำน้ำ ผลเป็นผลสด ค่อนข้างกลม เปลือกนอกค่อนข้างแข็ง แก่เต็มที่มีสีม่วงแดง ยางสีเหลือง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจำนวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร[2]เมล็ดไม่สามารถใช้รับประทานได้มังคุดเป็นผลไม้จากเอเชียที่ได้รับความนิยมมาก มังคุดได้รับขนานนามว่าเป็น "ราชินีของผลไม้" อาจเป็นเพราะด้วยลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบเลี้ยงติด อยู่ที่หัวขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินีส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้ มีการนำมังคุดมาประกอบอาหารบ้างทั้งอาหารคาว เช่น แกง ยำ และอาหารหวาน เช่น มังคุดลอยแก้ว แยมมังคุด มังคุดกวน มังคุดแช่อิ่ม ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีการทำมังคุดคัด ด้วยการแกะเนื้อมังคุดห่ามออกมาเสียบไม้รับประทานในขณะที่ส่วนใหญ่จะนิยมรับประทางมุงคุดสุกเป็นผลไม้เปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) แทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว แมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ ฝนกับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้รักษาอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย เปลือกมังคุด มีสารป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การหมักปุ๋ย

ส้ม (Citrus) อยู่ในวงศ์ Rutaceae มีต้นกำเนิดในเขตร้อนและเขตร้อนชื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 5-15 เมตร มีหนามที่ต้น มีใบแบบสลับและเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ออกดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อดอกขนาดเล็ก แต่ละดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 ซม. มีกลีบดอกสีขาว 5 กลีบ (น้อยชนิดมี 4 กลีบ) และมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ปกติดอกมีกลิ่นหอม ผลกลมจนถึงยาว ขนาดยาว 430 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 420 ซม. พืชสกุลนี้มีความสำคัญทางการค้า โดยหลายชนิดมีการปลูกเพื่อนำผลไปกินสดๆหรือคั้นเป็น น้ำผลไม้ผลมีกลิ่นหอม เนื่องจากมีสาร ฟลาโวนอยด์ และ ลิโมนอยด์ (ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสาร เทอร์พีน) ในเปลือกและในน้ำ นอกจากนี้น้ำมี กรดซิตริกจำนวนมากจึงทำให้มีรถเปรี้ยว และเป็นแหล่ง ไวตามินซี และ ฟลาโวนอยด์
(ที่มา:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%94)
มังคุดเป็นพืชในสกุลเดียวกับมะดัน และส้มแขก มีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของไทยต่อกับประเทศมาเลเซีย ในอดีตมีการปลูกเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ปัจจุบันได้มีผู้นำไปปลูกในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น ศรีลังกา อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย แต่ประเทศผู้ส่งออกสำคัญยังเป็นประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นอกจากกินเป็นผลไม้สดแล้ว ยังมีการทำเนื้อมังคุดแช่แข็งเพื่อส่งออก เมื่อถึงผู้บริโภคปลายทางก็นำมาละลายน้ำแข็งกินได้เช่นกัน เปลือกมังคุดให้สีม่วง ใช้ทำน้ำยาขัดรองเท้า ใช้ย้อมสีหนัง ใช้เป็นยาฝาดสมาน และผสมในเครื่องสำอาง
(ที่มา: http://saengdaw006.blogspot.com/)
2.ความสำคัญของเปลือกผลไม้
มังคุดเป็นพืชในสกุลเดียวกับมะดันและส้มแขกมีถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของไทยต่อกับประเทศมาเลเซีย ในอดีตมีการปลูกเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น ปัจจุบันได้มีผู้นำไปปลูกในประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น ศรีลังกา อินเดีย บราซิล และออสเตรเลีย แต่ประเทศผู้ส่งออกสำคัญยังเป็นประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์นอกจากกินเป็นผลไม้สดแล้ว ยังมีการทำเนื้อมังคุดแช่แข็งเพื่อส่งออก เมื่อถึงผู้บริโภคปลายทางก็นำมาละลายน้ำแข็งกินได้เช่นกัน เปลือกมังคุดให้สีม่วง ใช้ทำน้ำยาขัดรองเท้า ใช้ย้อมสีหนัง ใช้เป็นยาฝาดสมาน และผสมในเครื่องสำอางส่วนของเปลือกผลแห้งของส้มจะมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย ซิตรัล ( CITRAL ) เจอรานิออล( GERANIOL ) และ ไลนาโลออล ( LINALOOL ) น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จะสามารถสกัดออกมาเพื่อใช้แต่งกลิ่นยาและมีฤทธิ์ขับลม ส่วนเปลือก ผลที่แห้งเมื่อนำมาจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและสามารถไล่ยุงได้ดีส้ม .... ทุกคนอาจจะรู้จักผลไม้ชนิดนี้กันดีอยู่แล้ว  เพราะ ส้มเป็นผลไม้ที่หาซื้อรับประทานได้ง่ายและมีให้รับประทานตลอดทั้งปี ปกติแล้วเรารับประทานแค่เพียงเนื้อส้มข้างในแล้วก็ทิ้งเปลือกส้ม แต่ ! หารู้ไม่ว่าเปลือกส้มที่เราทิ้งกันมีประโยชน์นานับประการ  ถ้าการทำงานในทุกๆ วันทำให้กำลังรู้สึกเครียดหรือเมื่อยล้าและอยากหาสิ่งที่ช่วยผ่อนคลาย  เปลือกส้มช่วยท่านได้..โดยการนำเปลือกส้มมาคั้นหรือบีบเอาน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในเปลือกส้ม นำมาดมกลิ่น หรือใช้นวดตามร่างกาย ซึ่งน้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ ประโยชน์ของเปลือกส้มยังไม่หมดเพียงเท่านี้!!! ...เพราะเปลือกส้มยังมีคุณสมบัติช่วยทำให้สิวที่รังควานใบหน้าของสาว ๆ ยุบสลายได้อย่างดีทีเดียวเพียงแค่นำเปลือกส้มที่ไม่ใช้ไปล้างน้ำสะอาด บดให้ละเอียดๆ แล้วผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อยนำไปแต้มสิว ทิ้งไว้สัก 20 -30 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น เพียงเท่านี้สิวที่ผุดอยู่บนใบหน้าก็จะค่อย ๆ ยุบหายไป ใบหน้าของคุณก็จะกลับมาใสปิ๊งเหมือนเดิมค่ะหน้าหนาวนี้สำหรับสาวๆหรือชายหนุ่มที่มีลักษณะผิวดังต่อไปนี้ตั้งใจฟังให้ดีๆ เพราะจะมีเคล็ดที่ไม่ลับมากฝากกัน!! เริ่มต้นกันด้วยใครที่มีผิวที่แห้ง แตก หรือลอกเป็นขุย ไม่ต้องเสียเวลา  เสียเงินไปซื้อครีมทาผิว แพงๆกันอันต่อไปแล้วค่ะ เพียงแค่นำเปลือกส้มมาบดให้ละเอียดจึงนำไปใช้แทนสบู่แล้วตามด้วยการอาบน้ำสะอาดเป็นเสร็จพิธี เพียงแค่นี้ก็สามารถดูแลผิวด้วยสูตรสำเร็จที่เราทำเองได้ที่บ้านโดยไม่ต้องเสียสตางค์แพงๆไปทำ สปาตามร้านให้ยุ่งยากอีกต่อไป
(ที่มา: http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/6681)  
3.วิธีการเตรียมผงเปลือกส้มและมังคุด
 1.นำเปลือกส้มและเปลือกมังคุดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
2.นำเปลือกส้มที่หั่นแล้วไปอบในเตาจนเปลือกแห้ง และนำมาตำจนผงละเอียด
3.ทำตามขั้นที่2แต่เปลี่ยนจากเปลือกส้มเป็นเปลือกมังคุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น